จิตวิทยาการกีฬา : การเตรียมจิตใจเพื่อการแข่งขันกีฬา
ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาการกีฬา ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องจิตวิทยาการกีฬาไว้ว่านักกีฬาระดับสุดยอดหรือนักกีฬาที่เก่งต้องมีเตรียมการสำหรับตนเองใน 4 ด้าน ดังนี้ คือ
1) ด้านร่างกาย
2) ด้านเทคนิค(ทักษะ)
3) ด้านกลวิธีการเล่น
4) ด้านจิตใจ
ประการแรก คือนักกีฬาต้องมีสมรรถภาพทางกายที่ดี ประการที่ 2 ต้องมีทักษะสูงและเทคนิคที่ดีจากการฝึกซ้อม เพื่อที่นักกีฬาจะแสดงความสามารถได้โดยอัตโนมัติ ประการที่ 3 เป็นการเตรียมด้านกลวิธีการเล่นที่เป็นองค์ประกอบสำคัญ และ ประการที่ 4 เป็นการเตรียมทางด้านจิตใจ ซึ่งในระหว่าง 2 – 3 ปีที่ผ่านมาองค์ประกอบข้างต้นได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น ในการแข่งขันระดับนานาชาติ นักกีฬาจะมีความแตกต่างในด้านสมรรถภาพทางกายและด้านทักษะในการแข่งขัน และความแตกต่างระหว่างบุคคลที่เกิดขึ้นในระหว่างการแข่งขันเนื่องจากการเตรียมด้านจิตใจ ในการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ มีนักกีฬาจำนวนน้อยที่สามารถระงับความตื่นเต้นได้ นักกีฬาส่วนใหญ่ไม่สามารถที่จะแสดงความสามารถด้านร่างกายและทักษะได้ดี นักกีฬาบางคนไม่สามารถจะเรียนรู้ทักษะใหม่ได้ในเวลาที่จำกัดและมีความสับสนอย่างมากรวมทั้งเกิดอาการผิดพลาดอื่น ๆ ในขณะปฏิบัติทักษะ นักกีฬาที่มีความสามารถในการเรียนรู้ทักษะทางด้านจิตใจ จะไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากความสับสนและสามารถปฏิบัติทักษะได้อย่างเต็มศักยภาพ
ความสำคัญของจิตวิทยาการกีฬา
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับนักพลศึกษาได้แก่งานวิจัยทางด้านจิตวิทยาการกีฬาที่ได้มีการเผยแพร่ต่อสาธารณะโดยนักพลศึกษาสาขาจิตวิทยาการกีฬาจากการสำรวจความคาดหวังด้านการเรียนรู้ทักษะกลไก ตั้งแต่ช่วงต้นปี 1970 แสดงให้เห็นว่า ผู้ฝึกสอนยังมีความต้องการความก้าวหน้าในส่วนของการปฏิบัติหน้าที่ผู้ฝึกสอนกีฬา จากการประยุกต์ใช้ผลจากการทดลองทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาให้มากยิ่งขึ้น (Martin and Lumsden อ้างถึง Gowan, 1979)
จิตวิทยาการกีฬา หมายถึง การนำความรู้ด้านจิตใจมาประยุกต์เข้ากับการพัฒนาความสามารถและความพอใจของนักกีฬาและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกีฬา (Martin and Lumsden อ้างถึง Blimkie ,1984)
วิธีพัฒนาทักษะนักกีฬาที่มีประสิทธิภาพ
วิธีการเรียนรู้ทักษะที่ดีที่สุดของนักกีฬาแต่ละคนคือการกำจัดสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ หรือ กิจกรรมที่ไม่สร้างนิสัยที่ดีให้นักกีฬา หรือการฝึกด้วยการผสมผสานทักษะที่ง่ายเข้ากับทักษะที่ซับซ้อนหรือการสร้างกระบวนการที่ให้นักกีฬาสามารถกระทำได้สำเร็จ
วิธีจูงใจในการฝึกซ้อมและการฝึกความอดทน
ผู้ฝึกสอนจะพัฒนาความสนใจในการฝึกซ้อมให้มีประสิทธิภาพได้โดยการจูงใจให้นักกีฬาใช้เวลาในการฝึกให้มาก ผู้ฝึกสอนต้องบริหารเวลาการฝึกเพื่อให้นักกีฬาเสียเวลาในการฝึกให้น้อยที่สุด ในบทก่อนหน้านี้ ได้นำเสนอตัวอย่างวิธีการแก้ปัญหาต่าง ๆ ในการฝึกหลายอย่าง เพื่อให้นักกีฬาและผู้ฝึกสอนสามารถใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการฝึกสอนกีฬา รวมทั้งวิธีตั้งเป้าหมายของการฝึก วิธีการให้รางวัลที่มีประสิทธิภาพ การบันทึกผลการฝึกของตนเอง และการมองเห็นพัฒนาการของนักกีฬาแต่ละคน ในการสร้างทีม สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นวิธีการจูงใจที่มีประสิทธิภาพที่ผู้ฝึกสอนสามารถเรียนรู้ได้อย่าง
รวดเร็วทั้งสิ้น
รวดเร็วทั้งสิ้น
วิธีแก้ปัญหาของนักกีฬาแต่ละบุคคล
เมื่อคนส่วนใหญ่ได้ยินคำว่า “นักจิตวิทยา” เขาอาจมองถึงนักจิตวิทยาที่นั่งอยู่ในสำนักงานและดำเนินการรักษาคนไข้ด้วยการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน นักกีฬาควรไปหานักจิตวิทยาคลีนิคและเล่าปัญหาและประสบการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะให้นักจิตวิทยาช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ เหล่านั้น เนื่องจากปัญหาส่วนบุคคลอาจก่อให้เกิดความสับสนในการปฏิบัติทักษะทางกีฬาของนักกีฬา ดังนั้นในบางประเทศจึงส่งนักจิตวิทยาไปกับทีมกีฬาขณะเดินทางไปแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศ เมื่อเขาเห็นว่าจะสามารถช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดจากอารมณ์ของนักกีฬาหรือปัญหาอื่น ๆ ที่นักกีฬาบางคนอาจจะประสบได้อย่างรวดเร็ว โดยความรู้สึกนี้ นักจิตวิทยาคลีนิคที่ได้รับการฝึกและมีประกาศนียบัตรจะเป็นผู้ที่มีความพร้อมในการเตรียมการให้บริการแก่นักกีฬาได้เป็นอย่างดีในการที่จะทำให้นักกีฬามีความพร้อมในทางที่ต้องการในทางที่เหมือน ๆ กัน
หลักการเป็นผู้ฝึกสอนกีฬาที่ดี
นักวิจัยหลายคนเชื่อว่า สิ่งต่าง ๆ ที่ผู้ฝึกสอนได้แนะนำนักกีฬาไปเป็นคำตอบที่นักจิตวิทยารู้ดีว่าผู้ฝึกสอนไม่รู้วิธีการจูงใจนักกีฬาเพื่อให้เขาปฏิบัติทักษะในระดับที่สูงได้อย่างเต็มที่ หรือใช้วิธีการพัฒนาทักษะอย่างไม่มีประสิทธิภาพ และบางครั้งมีการใช้วิธีการฝึกแบบลองผิดลองถูก และไม่มีการปรับเปลี่ยนโปรแกรมที่ใช้ฝึกเพื่อลดความผิดพลาด ในขณะที่มีการศึกษาความเป็นไปได้ของ
ผู้ฝึกสอนเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวนี้ ต้องระลึกไว้ว่าการฝึกสอนกีฬาเป็นงานที่ยากและในอดีตมีโอกาสในการเตรียมการฝึกที่ไม่เพียงพอ แม้ผู้ฝึกสอนหลายคนใช้เวลาอย่างอิสระหลายชั่วโมงในการฝึกสอน และบางครั้งใช้เวลาในการฝึกที่มีหลักการเพียงเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่าผู้ฝึกสอนไม่ได้นำหลักของการวิจัยด้านจิตวิทยาการกีฬา สรีรวิทยา เวชศาสตร์และสังคมวิทยา ตลอดจนอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่มี ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในเพิ่มประสิทธิภาพการฝึกซ้อมด้วย
ผู้ฝึกสอนเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวนี้ ต้องระลึกไว้ว่าการฝึกสอนกีฬาเป็นงานที่ยากและในอดีตมีโอกาสในการเตรียมการฝึกที่ไม่เพียงพอ แม้ผู้ฝึกสอนหลายคนใช้เวลาอย่างอิสระหลายชั่วโมงในการฝึกสอน และบางครั้งใช้เวลาในการฝึกที่มีหลักการเพียงเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่าผู้ฝึกสอนไม่ได้นำหลักของการวิจัยด้านจิตวิทยาการกีฬา สรีรวิทยา เวชศาสตร์และสังคมวิทยา ตลอดจนอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวกที่มี ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในเพิ่มประสิทธิภาพการฝึกซ้อมด้วย
สิ่งที่ต้องเน้นคือวิธีการฝึกสอนกีฬาให้มีประสิทธิภาพ เพื่อจะช่วยปรับทักษะและพฤติกรรมของนักกีฬาให้ก้าวหน้าและรักษาระดับความสามารถในการปฏิบัติทักษะของนักกีฬาไว้ และเพื่อเป็นการปรับปรุงพฤติกรรมการฝึกสอนให้มีประสิทธิภาพ ผู้ฝึกสอนกีฬาต้องปรับวิธีการสอนให้มีประสิทธิภาพ ด้วยการตั้งเป้าหมายการฝึก การชมเชย การตำหนิ และปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ที่ถูกต้อง และประเมินประสิทธิภาพของนักกีฬาภายหลังจากที่ได้มีการปรับพฤติกรรมแล้ว เพื่อเป็นการพัฒนาและปรับพฤติกรรมด้านทักษะการฝึกสอนด้วย
การเตรียม “จิตวิทยาการกีฬา” สำหรับนักกีฬาที่เข้าแข่งขัน
ตามปกติ จิตวิทยาการกีฬาจะเกี่ยวข้องกับ “สภาพจิตใจ” ในระหว่างการแข่งขัน ดังเช่น
การแสดงออกของนักกีฬาและอาการต่าง ๆ ที่เกิดจากความพ่ายแพ้ที่อาจมีสาเหตุมาจากจิตใจ หรือความรู้สึกที่ว่า “ถ้าต้องการจะทำสิ่งใดให้ดีที่สุด ต้องทำให้จิตใจดีขึ้น” หรือ “ถ้าจะทำสิ่งต่างๆ ในการแข่งขันครั้งสำคัญให้ดีขึ้นต้องเรียนรู้วิธีการทำให้จิตใจให้สงบ”
การแสดงออกของนักกีฬาและอาการต่าง ๆ ที่เกิดจากความพ่ายแพ้ที่อาจมีสาเหตุมาจากจิตใจ หรือความรู้สึกที่ว่า “ถ้าต้องการจะทำสิ่งใดให้ดีที่สุด ต้องทำให้จิตใจดีขึ้น” หรือ “ถ้าจะทำสิ่งต่างๆ ในการแข่งขันครั้งสำคัญให้ดีขึ้นต้องเรียนรู้วิธีการทำให้จิตใจให้สงบ”
ตัวอย่างของทีมฟุตบอลทีมชาติไทยชุดเตรียมโอลิมปิคที่เดินทางไปแข่งขันที่บ้านของทีมสหรัฐเอมิเรส ทีมไทยแพ้ 4 ประตูต่อ 1 ซึ่งนักกีฬาส่วนใหญ่เป็นนักเตะหน้าใหม่แม้จะมีการเตรียมทีมกันอย่างดี ผู้จัดการทีมได้ออกมาให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งว่า นักกีฬามีความพร้อมทางด้านร่างกายและทักษะเป็นอย่างมากเพราะมีการเตรียมตัวและลงทุนกับนักกีฬาชุดนี้มาก แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้จัดการทีมกล่าวคือนักกีฬาบางคนมีความตื่นเต้นและไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตนเองได้ แสดงให้เห็นว่าการปฏิบัติทักษะและการแสดงความสามารถของนักกีฬานั้นอาจจะมีผลมาจากด้านจิตใจที่เกิดจากความเครียดเนื่องจากความหวังตามเป้าหมายคือการไปแข่งขันกีฬาโอลิมปิค นักกีฬาอาจมีความตั้งใจสูงและส่งผลไปยังการปฏิบัติทักษะ
นักจิตวิทยาการกีฬาชาวคานาดาได้แบ่งเนื้อหาในการเตรียมด้านจิตวิทยาสำหรับการแข่งขันออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะก่อนการแข่งขันและระยะของการแข่งขัน กลวิธีก่อนการแข่งขันเป็นแผนการเฉพาะที่จะดำเนินไปในวันก่อนการแข่งขันในแต่ละรายการ และยังรวมถึงสิ่งที่นักกีฬาควรจะทำ พูด คิด ตั้งสมาธิ และขึ้นอยู่กับเวลาที่นักกีฬาใช้ตั้งแต่เช้าจนถึงเวลาก่อนที่การแข่งขันจะเริ่มขึ้น โดยเฉพาะการทำสมาธิ หรือตั้งใจใช้เวลา 2 – 3 นาที ก่อนการแข่งขัน คิดถึงภาพรวมของการแข่งขัน การปฏิบัติทักษะให้เต็มศักยภาพก่อนการแข่งขันจะเป็นวิธีที่เพิ่มศักยภาพให้นักกีฬาที่ได้ทำการฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี เพราะการทบทวนความคิดดังกล่าวเป็นการตอบสนองที่เกี่ยวข้องกับนักกีฬาโดยตรง
ความสำคัญในการฝึกทางจิตวิทยาการกีฬา
นักกีฬาควรเรียนรู้และฝึกวิธีการทางจิตวิทยาการกีฬาด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
1. ในระหว่างวันแข่งขันมีเวลาเพียงเล็กน้อยในการทำจิตใจให้สงบ และมีโอกาสที่จะก่อความกดดันให้แก่นักกีฬาตลอดเวลา โปรแกรมจิตวิทยาการกีฬาสามารถใช้ลดความกดดันต่าง ๆ เหล่านี้ให้บรรเทาได้
2. มีสิ่งที่ต้องพิจารณาให้ชัดเจนเพื่อสนับสนุนสถานการณ์ต่างๆ ทางจิตวิทยา เช่น ให้นักกีฬากล่าวกับตนเองและคิดวิธีที่จะปฏิบัติทักษะ โดยไม่ต้องใช้เวลานาน
3. ถ้านักกีฬามีการวางแผนการปฏิบัติในช่วงที่จะแข่งขันเป็นอย่างดี เขาอาจตัดสินใจใน
สิ่งที่เป็นผลดีแก่ตัวเขา ถ้านักกีฬาไม่มีการวางแผนโดยละเอียดอาจทำให้สิ่งที่เป็นผลดีแก่เขาต้องหลุดมือไปหรือเปลี่ยนไปเป็นโอกาสของคนอื่น
สิ่งที่เป็นผลดีแก่ตัวเขา ถ้านักกีฬาไม่มีการวางแผนโดยละเอียดอาจทำให้สิ่งที่เป็นผลดีแก่เขาต้องหลุดมือไปหรือเปลี่ยนไปเป็นโอกาสของคนอื่น
4. ในการแข่งขันนักกีฬาอาจจะรู้หรือไม่รู้วิธีการปกป้องทางจิตใจไม่ให้วุ่นวายและลดความสามารถของนักกีฬา แต่โปรแกรมจิตวิทยาการกีฬา ช่วยให้การพยายามของฝ่ายตรงข้ามมีผลกระทบต่อจิตใจของนักกีฬาน้อยลง
5. ถ้านักกีฬามีอาการประหม่าหรือวิตกกังวลเป็นอย่างมากก่อนการแข่งขันในรายการที่สำคัญ จนเป็นเหตุให้นักกีฬาเสียโอกาสและไม่สามารถปฏิบัติทักษะได้อย่างเต็มศักยภาพ โปรแกรมจิตวิทยาอาจช่วยให้นักกีฬาลดความประหม่าและความวิตกกังวลลงได้
6. การปฏิบัติทักษะของนักกีฬาจนประสพผลสำเร็จสูงในหลาย ๆ กิจกรรมมีผลมาจากการสอนตามโปรแกรมจิตวิทยาการกีฬา
7. ทักษะทางด้านจิตวิทยาที่จำเป็นในการพัฒนาและการวางแผน เพื่อความสำเร็จในการแข่งขันสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้หลายประการ
จิตวิทยาการกีฬาจึงมีส่วนสัมพันธ์ที่สำคัญต่อการเตรียมนักกีฬา ร่วมกับขอบข่ายการเตรียมนักกีฬาอีก 3 ด้านคือ ด้านร่างกาย ทักษะ และวิธีการเล่น ส่วนการเตรียมทางด้านจิตใจสามารถช่วยให้การปฏิบัติทักษะของนักกีฬาใกล้เคียงกับความสามารถที่เป็นจริงของนักกีฬา และช่วยในการเตรียมทางด้านอื่นอีกด้วย ทักโก้ และ โตไซ (Tutko and Tosi : 1976) ยังเห็นว่า จิตวิทยาการกีฬาสามารถช่วยให้นักกีฬาเล่นได้ดีตลอดเวลาการแข่งขัน
ข้อจำกัดของจิตวิทยาการกีฬา
ในบางครั้งอาจพบว่า มีการพาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์ว่าผู้ฝึกสอนและนักกีฬาที่มีชื่อเสียงไม่สนใจทำตามวิธีการของนักจิตวิทยา หรือบางทีผู้ฝึกสอนและนักกีฬามีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องหลักการของจิตวิทยาการกีฬา และบางทีนักวิทยาศาสตร์การกีฬามีการนำประโยชน์ของวิทยาศาสตร์การกีฬาไปใช้อย่างผิดพลาด แต่ไม่ว่าจะมีเหตุผลใดก็ตาม ข้อผิดพลาดของวิทยาศาสตร์การกีฬาอาจมีผลเสียดังนี้ คือ
“เพื่อให้การแข่งขันเป็นไปอย่างดี ท่านต้องทำให้นักกีฬามีจิตใจที่สงบ” โดยปกตินักกีฬา
บางคนต้องเรียนรู้วิธีการปลุกสรีระเพิ่มเติมและแสดงชนิดของพฤติกรรมที่สามารถจะอธิบายได้ว่าเป็น “การกระตุ้นตนเอง“ (pumped up) นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องเกี่ยวกับคน ๆ นั้น ดังตัวอย่างเช่น การปลุกสรีระด้วยการตบตามร่างกายของนักกีฬายกน้ำหนักก่อนการพยายามทำการยก นักยิงปืนประเภทต่าง ๆ ต้องผ่อนคลายเป็นอย่างมากก่อนการยิง นักว่ายน้ำที่แข่งขันระยะทาง 50 เมตร ควรมีการปลุกหรือกระตุ้นสรีระของร่างกายก่อน เพราะความสามารถของนักกีฬาเหล่านั้นอาจจะมีผลมาจากการปลุกสรีระของตนเอง
บางคนต้องเรียนรู้วิธีการปลุกสรีระเพิ่มเติมและแสดงชนิดของพฤติกรรมที่สามารถจะอธิบายได้ว่าเป็น “การกระตุ้นตนเอง“ (pumped up) นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องเกี่ยวกับคน ๆ นั้น ดังตัวอย่างเช่น การปลุกสรีระด้วยการตบตามร่างกายของนักกีฬายกน้ำหนักก่อนการพยายามทำการยก นักยิงปืนประเภทต่าง ๆ ต้องผ่อนคลายเป็นอย่างมากก่อนการยิง นักว่ายน้ำที่แข่งขันระยะทาง 50 เมตร ควรมีการปลุกหรือกระตุ้นสรีระของร่างกายก่อน เพราะความสามารถของนักกีฬาเหล่านั้นอาจจะมีผลมาจากการปลุกสรีระของตนเอง
“ก่อนการแข่งขันครั้งสำคัญ ผู้ฝึกสอนควรให้ความรู้หรือข้อมูลใหม่ ๆ แก่นักกีฬาของเขาด้วย การแนะนำในนาทีสุดท้ายก่อนลงแข่งขันเพื่อให้นักกีฬาเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบคู่แข่งขัน” เช่น นักกีฬายกน้ำหนักอาจวิธีการตบหลัง ไหล่ หรือแก้มที่ค่อนข้างรุนแรง เป็นต้น เมื่อถึงจุดนี้ นักกีฬาบางคนอาจไม่สามารถพัฒนาสมรรถภาพทางกายหรือทักษะในวันแข่งขันที่สำคัญได้ แต่เวลาในช่วงสุดท้ายที่
ผู้ฝึกสอนได้ให้คำแนะนำอย่างง่าย ๆ อาจจะทำให้นักกีฬาเกิดความมั่นใจ และสิ่งที่ควรพิจารณาในด้านจิตวิทยาการกีฬาคือต้องกระตุ้นให้นักกีฬาสามารถควบคุมตนเองให้ได้
ผู้ฝึกสอนได้ให้คำแนะนำอย่างง่าย ๆ อาจจะทำให้นักกีฬาเกิดความมั่นใจ และสิ่งที่ควรพิจารณาในด้านจิตวิทยาการกีฬาคือต้องกระตุ้นให้นักกีฬาสามารถควบคุมตนเองให้ได้
สถานการณ์ที่แสดงให้เห็นว่า คำแนะนำในนาทีสุดท้ายจากผู้ฝึกสอนสามารถช่วยนักกีฬาได้ เช่น การกระตุ้นนักกีฬายกน้ำหนักครั้งสุดท้ายก่อนขึ้นเวที หรือผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลที่กำลังเฝ้าดูการอบอุ่นร่างกายของทีมตรงข้าม หรือเห็นว่านักกีฬาฝ่ายตรงข้ามไม่ได้มีการเปลี่ยนตำแหน่งในระหว่างการแข่งขันในเซทที่ 1 อาจชี้ให้เห็นองค์ประกอบสำคัญที่จะเป็นประโยชน์ในการสื่อสารกับทีมเพื่อทำให้ทีมมีการปรับกลวิธีในการเล่น การชี้ให้เห็นความผิดพลาด ผู้ฝึกสอนต้องตั้งความหวังว่าเขาต้องแนะนำนักกีฬาให้ได้รับข้อมูลใหม่ในนาทีสุดท้ายก่อนการแข่งขันเสมอ และหวังว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อการเล่นของนักกีฬา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น